เกิดอะไรขึ้น!? ซุปตาร์เกาหลีดังถูกยกเลิกงงานในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีแถลงการณ์ว่า นักแสดงชายดังแดนกิมจิ “คิมยองแด” Kim Youngdae กำลังมีงานมีตติ้งของพบปะสนทนาแฟนคลับชาวไทย กับงาน ‘FLY.OUNGDAE FALL IN LOVE YOUNGDAE THAILAND’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์นี้

แต่ล่าสุดไม่เคยทราบว่าเกิดอะไรขึ้น!? เมื่อทาง The DND ผู้จัดงานแฟนมีตติ้งของ คิมยองแด ในประเทศไทยออกมาประกาศงานนี้ออกไปอย่างไม่มีระบุ โดยให้เหตุผลว่า …เหตุเพราะสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด และจะแจ้งกำหนดการใหม่ให้รู้อย่างรวดเร็วที่สุด…

ด้านแฟน ๆ ได้แสดงข้อคิดเห็นว่า บางทีอาจจะเพราะเหตุว่าฟีดแบคตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเหตุว่าขายบัตรได้ไม่ถึง 10% ของงาน

ตามเก็บ 3 ผลงานเด็ดของ คิมยองแด (Kim Young-dae)

When the Weather Is Fine (2020)
ซีรีส์ ความยาว 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
ช่องทางรับดู WeTV

ใครอยากสัมผัสบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ขอให้พุ่งไปเรื่องนี้ มกแฮวอน (รับบทบาทโดย พัคมินยอง) อาจารย์สอนเชลโล่ในกรุงโซลที่เจอกับปัญหารายล้อมรอบด้านทำให้คุณรู้สึกเหมื่อยล้า หมดไฟ ไม่มีเรี่ยวแรงจะตื่นไปทำงาน ขณะที่ฤดูหนาวกำลังมาเยือนยิ่งทำให้ความรู้สึกของมกแฮวอนดิ่งลงเหว เธอจึงเริ่มเดินทางไปยัง หมู่บ้านบุคฮยอน จังหวัดคังวอน สถานที่ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพื่อพักกายแล้วก็ฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาดีดังเดิมก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง

ขณะดำเนินชีวิตยังบ้านเกิด มกแฮวอนได้พบกับ อิมอึนซอบ (เล่นบทโดย ซอคังจุน) เด็กหนุ่มเถ้าแก่หนังสือ Goodnight ผู้ที่ภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในกลับอบอุ่นเช่นเดียวกันกับเตาผิง ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่านการทำกิจกรรมเรียบง่ายอย่างการอ่านหนังสือและจิบกาแฟ ความสนิทสนมเริ่มก่อตัวกลายเป็นความรักท่ามกลางหิมะที่ยังคงกระหน่ำลงมาอย่างตลอด ตลอดฤดูหนาวมีเพื่อนเก่าวัยเด็กแวะเวียนมาหาพวกเขาอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งหนึ่งในนั้นคือ โอยองอู (เล่นบทโดย คิมยองแด) ชายหนุ่มที่เคยหลงรักมกแฮวอนตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมปลาย

เป็นซีรีส์ที่สื่อถึงการหาความสุขรอบตัวที่เรียบง่าย บอกเล่าวิถีชีวิตของคนชนบทล้อไปกับบรรยากาศหิมะตกตลอดทั้งเรื่องเชื้อเชิญให้หนาวถึงขั้วหัวใจ แต่เมื่อพระนางอยู่ด้วกันทีไรเสมือนหิมะละลายลงในทันตา ตัวละครชาวบ้านในหมู่บ้านบุคฮยอนยังสร้างสีสันเพิ่มความอบอุ่นให้ทุกเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ยิ่งเรื่องนี้นำนิยายมีชื่อเสียงมาร้อยเรียงเป็นละครก็เลยเต็มไปด้วยประโยคสนทนาที่คมคายกินใจ ดำเนินเรื่องไปอย่างเนิบช้าแต่กระทบความรู้สึกแทบทุกซีน ใครเป็นคอซีรีส์ชีวิตแอบแฝงปรัชญาอย่าง My Mister (2018) หรือ My Liberation Notes (2022) เชื่อว่าเรื่องนี้คงจะตอบโจทย์สิ่งเดียวกัน

ถึงแม้เรื่องนี้คิมยองแดจะไม่ใช่นักแสดงหลัก แต่ช่วงหนึ่งของซีรีส์เขากลับมีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวอยู่ไม่น้อยทีเดียว ต้องเป็นทั้งผู้เรียนวัยมัธยมแล้วก็วัยผู้ใหญ่ ทำให้ได้มองเห็นทั้งยังพาร์ทที่เขายังเป็นนักเรียนมอปลาย ลักษณะท่าทางเป็นผู้นำกลุ่มอันธาลที่เพื่อนร่วมโรงเรียนไม่กล้าหือ ขณะที่พาร์ทผู้ใหญ่กลับเงียบขรึมรวมทั้งนอบน้อมมากขึ้น ถึงจะเผยตัวไม่บ่อยแต่การแสดงที่พัฒนาขึ้นทำให้ดูแล้วยังจำหนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี

The Penthouse: War in Life – เกมแค้นระฟ้า (2020-2021) คิมยองแด

ซีรีส์ 3 ซีซั่น ความยาว 48 ตอน ตอนละประมาณ 80 นาที
ช่องทางรับดู NETFLIX / WeTV / VIU (มีพากษ์ไทย)

สายดราม่าเชือดเฉือนเชื้อเชิญทางนี้ เปิดชีวิตเหล่าไฮโซในตึกหรูที่สุดของกรุงโซลอย่าง เฮราพาเลซ ศูนย์กลางแห่งความหลงมัวเมาในอำนาจและก็เงินตราที่ซึ่งกฎเกณฑ์ทางด้านศีลธรรมถูกละเว้นเพื่อพวกเขาได้ตอบสนองกิเลสตัณหาอย่างไม่สิ้นสุด เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อตึกแห่งนี้ได้เกิดเหตุฆาตกรรมเด็กสาวนามว่า มินซอลอา (สวมบทบาทโดย โชซูมิน) นำมาซึ่งมหากาพย์แห่งการแก้เผ็ดรวมทั้งความข้องเกี่ยวอันสลับซับซ้อนเกินคาดเดา

การเสียชีวิตของมินซอลอาเป็นจุดเริ่มแรกของเรื่องราวทั้งหมด มหกรรมเผยโฉมความลับของมนุษย์ในตึกแห่งนี้ได้นำพาพวกเขาให้เข้ามาพันพัวกับเหตุการณ์โจษจันที่ยิ่งขุดยิ่งเน่าจนถึงเกินแก้ไข โดยยิ่งไปกว่านั้นเจ้าแห่งแวดวงอสังหาริมทรัพย์อย่าง จูดันแท (สวมบทโดย ออมกีจุน) ชิมซูรยอน (รับบทโดย อีจีอา) ภรรยาผู้เต็มไปด้วยบาดแผลจากเหตุฆาตกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังสาวไส้ไปถึงนักร้องโซปราโน่มีชื่ออย่าง ชอนซอจิน (เล่นบทโดย คิมโซฮยอน) รวมถึงตัวแทนของชนชั้นกลางอย่าง โอยุนฮี (สวมบทโดย ยูจีน) หญิงสาวผู้ปรารถนาที่จะยกระดับชีวิตตัวเองจึงก้าวเข้ามายังตึกระฟ้าแห่งนี้ด้วยเดิมพันบางอย่าง

เป็นซีรีส์ดราม่าที่คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเนื่องจากว่า

ชื่อกระฉ่อนทั้งในแล้วก็นอกเกาหลี เดินเรื่องโดยใช้เกมล้างแค้นนำทางตั้งแต่เริ่มจนถึงนาทีสุดท้าย กลางทางขยันแกงคนดูด้วยการสรรหาสารพัดกลเม็ดเด็ดพรายมาพลิกแพลงจนคาดทายใจไม่ได้ ผู้คนจำนวนมากให้คำนิยามเรื่องนี้ว่า ศูนย์รวมความประสาทแ_กชั้นยอด ลากเนื้อเรื่องยาวมาถึงสามซีซั่นชนิดที่ความนิยมไม่เคยแผ่วแถมยังมีความแปลกใหม่มาให้ได้ร้องว้าวกันตลอด
นอกเหนือจากการฟาดฟันบาดใจแล้วยังเสียดสีสังคมด้วยการตีแผ่ใจความสำคัญชนชั้น การศึกษา และก็ระบบยุติธรรมเอาไว้อย่างโจ่งแจ้ง เนื้อหาเข้มข้นตั้งแต่รุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่ดูแล้วสะใจจนกระทั่งตบเข่าฉาด บอกเลยห้ามพลาดด้วยประการทั้งหมด

เรื่องนี้คิมยองแดมีโอกาสสวมบทเป็นผู้เรียนม. ปลายอีกรอบในตัวละครที่ชื่อว่า จูซอกฮุน ลูกชายคนโตของจูดันแท ถือเป็นผลงานที่แฟนชาวไทยเองได้ทำความรู้จักหนุ่มคนนี้อย่างเป็นทางการแล้วก็ให้การต้อนรับในโลกโซเชียลกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ด้วยการถ่ายทอดท่าทางวัยรุ่นที่มีความเก็บกดจากการกระทำของพ่อแม่ ก็เลยกลายเป็นคนนิ่งเฉยแต่เฉลี่ยวฉลาดและฉลาด ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องให้โอกาสให้คิมยองแดได้พัฒนาความสามารถทางการแสดงจนทุกวันนี้ได้ก้าวขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวไปเป็นที่เรียบร้อย

Shooting Star (2022)

ซีรีส์ ความยาว 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
ช่องทางรับชม VIU / iQIYI / WeTV

ส่งท้ายกันด้วยผลงานล่าสุดกับการเป็นพระเอกเต็มตัวคราวแรกหลังจากวนเวียนเป็นนักแสดงสมทบมาพอเหมาะ พาทุกคนไปซอกแซกเบื้องหลังการทำงานของมนุษย์ในค่ายบันเทิงทั้งยังผู้บริหาร ผู้จัดการดารา และก็หัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์อย่าง โอฮันบยอล (เล่นบทโดย อีซองคยอง) พีอาร์สาวผู้ต้องสู้จัดการกับทุกอุปสรรครอบด้านเพื่อดูแลภาพลักษณ์ศิลปินในสังกัดให้เฉิดฉายมากที่สุด เธอทำงานชนิดขายวิญญาณตลอด 24 ชั่วโมงกระทั่งแทบไม่เหลือเวลาให้ใช้กับเรื่องส่วนตัว

ยุ่งเหยิงหัวฟูจากภาระงานรายวันยังไม่พอ โอฮันบยอลยังต้องรับมือกับ กงแทซอง (สวมบทบาทโดย คิมยองแด) ซูเปอร์สตาร์ระดับเอลิสต์ขวัญใจแฟนคลับทั่วราชอาณาจักร ภาพลักษณ์ของกงแทซองเป็นหนุ่มหล่อเรียบร้อยแล้วก็มีจิตสาธารณะจากการเดินทางไปเป็นอาสาสมัครยังพื้นที่ทุรกันดารในทวีปแอฟริกา ทว่าเบื้องหลังเขากลับเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพีอาร์สาวจากการถูกทำให้อับอายเมื่อหกปีก่อน เมื่อกลับมาเกาหลีกงแทซองเกาะติดโอฮันบยอลเป็นปลิงและก็รอกลั่นแกล้ง
เธอสารพัด แต่ตีกันไปตีกันมาดูดุจว่าสงครามประสาทระหว่างซุปตาร์หนุ่มกับประชาสัมพันธ์สาวจะกลายเป็นความรักไปเสียดื้อ ๆ

นอกเหนือจากการเผยแพร่เบื้องหลังของวงการบันเทิงเกาหลีที่เล่าออกมาไม่เครียดจนกระทั่งเกินไป เรื่องนี้ยังจัดเต็มทั้งยังความขำขันแล้วก็ความข้องเกี่ยวรักสุดหวานของบรรดาตัวละครมากมายหลายคู่ มั่นใจได้เลยว่าถูกจริตคอซีรีส์รอมคอมแบบสิบเต็มสิบ ได้มองเห็นคิมยองแดในฐานะพระเอกเต็มตัวกับบทบาทซุปตาร์ชายหนุ่มมาดทะเล้น บุคลิกโตเป็นผู้ใหญ่แปลกหูแปลกตาจากผลงานที่ผ่านมา เสริมความน่าดูด้วยเคมีที่เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมกับนางเอก อีซองคยอง เรียกว่าตีกันตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้